แด่วัย 30 ผู้คิดมาก
ผู้เขียน คิมอึนจู
ผู้แปล ชลภัทร ภัทรฤทธิกุล
จำนวนหน้า 304 หน้า
เธอไปเรียนต่อปริญญาโทที่อเมริกา ทั้งที่ยังพูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้และกว่าจะสื่อสารความคิดตัวเองได้ดี ก็ต้องใช้เวลาถึงสิบปี
แต่ตอนนี้เธอคือหัวหน้าฝ่ายออกแบบบริษัท Google ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีช่วงที่เผชิญกับภาวะ Imposter Syndrome หรืออาการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
ทั้งกังวลและหวาดกลัวทางข้างหน้า แต่เธอก็ผ่านมันมาได้ และก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ ในวัย 40 เธอจึงเขียนหนังสือเล่มนี้โดยกลั่นกรองจากประสบการณ์จริง ทั้งเรื่องทักษะการทำงาน ทักษะการใช้ชีวิต และเทคนิคการเรียนภาษา ให้ผู้ที่อยู่ในวัย 30
ที่ใกล้จะตระหนักรู้อะไรบางอย่างได้ แต่ก็ยังต้องสั่งสมประสบการณ์อีกมากมาย
ที่อาจหวั่นไหว มีคำถามมากมาย ให้หลุดจากหล่มแห่งความกังวลและหวาดกลัว ด้วยคำแนะนำที่อิงประสบการณ์จริง และเปี่ยมด้วยพลังบวก
หนังสือเล่มนี้จึงอาจไม่ใช่ฮาวทูชี้นำทางเร่งรัดสู่ความสำเร็จ แต่จะเป็นเหมือนเพื่อนที่จะผลักดันให้เรากล้าที่จะก้าวต่อไปในวันที่ลังเลและไร้ความมั่นใจ อย่างเป็นตัวของตัวเอง และไม่เสียดายทีหลัง
สารบัญ : แด่วัย 30 ผู้คิดมาก
บทนำ | แด่วัยสามสิบผู้คิดมาก
บทที่ 1
หากกังวลว่าเราล้าหลังอยู่คนเดียว
: วิธีการปกป้องตัวเองจากความคิดแง่ลบ
- เมื่อเรามีสิ่งที่ต้องทำเต็มไปหมด แต่กลับไม่อยากทำอะไรเลย
- ฉันไม่ได้ลำบากอยู่คนเดียวสินะ
- อย่าไปกลัว! ไม่ตายหรอก
- ถ้าอยากมีความพอใจในตัวเอง (Self-esteem) ที่แข็งแกร่งไม่หวั่นไหว - เทคนิคจัดการหัวใจแบบใหม่
- ถ้าอยากคงไว้ซึ่งความรู้สึกดีๆ ในทุกวัน - วิธีสร้างความแข็งแรงให้หัวใจสามประการ
- วิธีการปกป้องตัวเองจากคนที่ทำให้เครียด
- สิ่งที่อยากบอกคุณแม่วัยทำงาน 1
- สิ่งที่อยากบอกคุณแม่วัยทำงาน 2
- เจ็ดวิธีเป็นอิสระจากความคิดแง่ลบ
- ความไม่อยากล้มเหลวคือความไม่อยากลองเสี่ยง
- ต้องกล้าที่จะหยุดในเวลาที่ควรหยุด
- แม้การร้องไห้จะเปลี่ยนอะไรไม่ได้
บทที่ 2
หากคุณกำลังวางแผนแต่ลงมือทำไม่ได้
: “ถ้าไม่ได้ก็แล้วไป” คาถาวิเศษที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา
- ใช้เวลาคิดให้น้อย ลงมือปฏิบัติให้เร็ว
- เจ็ดวิธีเอาชนะความกลัวการล้มเหลว
- หากยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีละก็…
- เหตุผลที่ล้มเหลวร้อยครั้งยังดีกว่าความสำเร็จหนึ่งครั้ง
- ฉันหางานที่ตัวเองชอบได้ยังไงกันนะ
- ก่อเรื่องดูก่อน แล้วพลังในการเก็บงานก็จะมาเอง
- โอกาสมักเข้ามาตอนเราไม่พร้อมเสมอ
- เหตุผลที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกาตอบรับฉันที่ไม่มีคะแนนวัดระดับภาษาอังกฤษเข้าเรียน
- สามสิบ วัยที่ประสบความสำเร็จได้ตามที่ใจต้องการ
บทที่ 3
เมื่ออยากเก่งขึ้นแต่รู้สึกว่าตัวเองบกพร่องเกินไป
: กลยุทธ์การทำงานอันชาญฉลาดที่ได้เรียนรู้จากการร่วมงานกับอัจฉริยะระดับโลก
- ความสามารถที่ดีที่สุดที่ทุกบริษัทต้องการคือ…
- การสร้างสัญชาตญาณอันทรงพลังยิ่งกว่าข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)
- สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ห้ามทำสำหรับผู้ต้องการการยอมรับ
- วิธีทำให้ตนเองโดดเด่นสะดุดตาท่ามกลางเรซูเม่สามล้านสามแสนใบ
- คำตอบของคำถาม “คุณเคยตีลูกโฮมรันไหม”
- เหตุผลที่ฉันสมัครงานบริษัท Samsung เพื่อพัฒนา Smart Watch
- 5 สถานการณ์ Culture Shock ที่เจอครั้งแรกเมื่อเข้าทำงานบริษัท Google
- วิธีการทำงานของอัจฉริยะจากบริษัท Google
- สิ่งที่ต้องหมั่นตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอเพื่อการเป็นผู้นำที่ดี
- วิธีการค้นพบพรสวรรค์ใหม่ๆ ที่ภาพยนตร์เรื่อง Ratatouille สอน
บทที่ 4
สิ่งที่อยากบอกวัยสามสิบที่ไม่อยากรู้สึกเสียดายทีหลัง
: ช้าก็ไม่เป็นไร แค่เป็นตัวเองให้ถึงที่สุด
- อย่าฝืนทำสิ่งที่ไม่เป็นตัวเอง
- ในหนึ่งวันจดบทเรียน 3 อย่างก็พอแล้ว
- ไม่ต้องเป็นที่หนึ่ง แต่ไปให้สุดเส้นชัย
- ยินดีกับความสำเร็จของใครสักคนจากใจจริง
- ใส่ใจดูแลคนก่อนตัวเลข
- อย่าตัดสินใครตามอำเภอใจ
- จงอย่ากลัวและเดินไปตามที่ใจต้องการ
บทที่ 5
วิธีการเรียนของฉันผู้ยอมแพ้ในภาษาอังกฤษไปแล้วครั้งหนึ่ง
: กระทั่งวันที่ได้รู้ว่ามีสิ่งสำคัญกว่าความสามารถภาษาอังกฤษ
- เหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องเสียกำลังใจแม้ไม่เก่งภาษาอังกฤษ
- วิธีพิเศษในการเรียนเพื่อเอาชนะอาการปั่นป่วนตอนพูดภาษาอังกฤษ
- นิสัยการเรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ใครก็ทำตามได้
- สุดท้ายภาษาอังกฤษก็คือคอนเทนต์และความมั่นใจ
- ยิ่งเรียนภาษาอังกฤษมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกถึงพลังอันยอดเยี่ยมของภาษาเกาหลี
บทที่ 6
ห้าปีถัดไป ฉันกำลังทำอะไรอยู่นะ
: สิ่งที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้เพื่อมีชีวิตในแบบที่เราต้องการ
- ตารางหนึ่งแผ่นที่จะเปลี่ยนชีวิตของฉัน ”Me Fact Table”
- กฎของเทคนิคการจัดการงาน (Jobtech) ที่สำคัญยิ่งกว่าเทคนิคการจัดการเงิน
- เหตุผลที่ฉันสมัครงานบริษัท Google และบริษัท Amazon พร้อมกัน
- คำตอบสำหรับคำถาม “การเข้าทำงานในบริษัทต้องเรียนปริญญาโทไหม”
- เหตุผลที่องค์กรต้องการคนทัศนคติดีมากกว่าคนเก่ง
- กลยุทธ์การสอบสัมภาษณ์ที่เอาชนะใจผู้คุมสอบ
- สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตการทำงาน - การมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง
- สิ่งที่ต้องวิเคราะห์เมื่อรู้สึกไม่มีสิ่งใดเป็นดั่งใจ
- วิธีการที่แน่นอนที่สุดในการสร้างเรื่องราวของตัวเอง - ไม่ว่าอะไรก็ให้ทำต่อเนื่องหนึ่งปี
บทส่งท้าย | หากเดินไปอย่างไม่ยอมแพ้ จะต้องไปถึงในสักวัน
ภาคผนวก | สิบคำถามยอดฮิตที่วัยสามสิบอยากรู้มากที่สุด
คำนำสำนักพิมพ์
วัย 30 เป็นวัยที่เดินทางในเส้นทางอาชีพมาได้สักพักหนึ่ง แต่หากคิดว่าอายุการทำงานจนถึงเกษียณคือ 60 ปี เราก็เดินมาได้เพียงครึ่งทาง
ทว่าความคาดหวังในสังคมปัจจุบัน รวมถึงความคาดหวังในตัวเอง บีบคั้นให้เราต้องแข่งขันและพัฒนาตัวเองตลอดเวลา คาดหวังว่าวัย 30 จะต้องมีพร้อมทุกอย่าง มองไปก็เห็นแต่คนเก่ง ทำให้เรายิ่งไม่มีความมั่นใจที่จะก้าวต่อไป และกลายเป็นจมกับความหวาดกลัว ทั้งที่ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก
หากแต่ผู้เขียน คิมอึนจู ที่อาจดูเป็นคนเก่งน่าชื่นชม เพราะเธอได้เข้าทำงานในบริษัทระดับโลก เช่น Motorola Qualcomm Samsung และ Google กลับบอกว่าทุกคนมีความหวาดกลัวกันทั้งนั้น เพราะเธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง และต้องประสบกับภาวะ Imposter Syndrome จนต้องเข้ารับคำปรึกษา
เธอมีช่วงเวลาที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำถูกต้องแล้วหรือไม่ หวาดกลัวที่จะผิดพลาด แต่เธอก็ลงมือทำไปก่อนทั้งที่ยังไม่พร้อม และค่อยพยายามหาทางทำให้สำเร็จ ในขณะเดียวกันก็ไม่ลืมกลับมาพัฒนาตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาส
เธอจึงเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาโดยกลั่นกรองจากประสบการณ์ของตนเอง มันอาจไม่ใช่ฮาวทูชี้นำทางเร่งรัดสู่ความสำเร็จ แต่จะเป็นเหมือนเพื่อนที่จะผลักดันให้เรากล้าที่จะก้าวต่อไปในวันที่ลังเลและไร้ความมั่นใจ อย่างเป็นตัวของตัวเอง และไม่เสียดายทีหลัง
สำนักพิมพ์ O2
