ศิลปะแห่งการไม่ตกเป็นเหยื่อ 12 กฎสำคัญ รู้ไว้ ไม่เจ็บใจทีหลัง

ศิลปะแห่งการไม่ตกเป็นเหยื่อ 12 กฎสำคัญ รู้ไว้ ไม่เจ็บใจทีหลัง

ผู้เขียน อ.ดร. ตฤณห์ โพธิ์รักษา
จำนวนหน้า 176 หน้า

เพราะโลกเต็มไปด้วยคนที่รู้หน้าไม่รู้ใจ แต่คุณเลือกได้ว่าจะ ‘รู้ทัน’ หรือ ‘ตกเป็นเหยื่อ’

เรียนรู้ 12 กฎของชีวิตจากประสบการณ์จริง อิงทฤษฎี ไม่เน้นวิชาการ
แต่เน้นบทเรียนชีวิตที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย แต่เจ็บจี๊ดไปถึงสมอง
ตามสไตล์อาจารย์ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์อาชญากรรมและพฤติกรรมมนุษย์

กฎข้อที่ 1 อย่าคิดว่า ‘ฉันไม่โง่พอจะโดนหลอก’ : Overconfidence Bias อคติที่คิดว่าตัวเองเก่งเกินความเป็นจริง
กฎข้อที่ 2 อย่าคิดว่าจะพลาดโอกาสทอง
กฎข้อที่ 3 อย่าทำตามคนหมู่มากโดยไม่คิด เพียงเพราะเห็นว่าใครๆ ก็ทำกัน
กฎข้อที่ 4 อย่าไว้ใจใครง่ายเกินไป – คนใกล้กับคนไกลร้ายพอกัน
กฎข้อที่ 5 อย่าหลงกลกับคนทุ่มเทจนเกินงาม เพราะมันคือความรักที่เกินจริง
กฎข้อที่ 6 อย่าปล่อยให้ใครทำให้คุณรู้สึก ‘สงสัยตัวเอง’
กฎข้อที่ 7 อย่าให้ใครตัดคุณออกจากคนรอบตัว
กฎข้อที่ 8 อย่าหลงรักเพียงเพราะเขาดู ‘ใช่’ ทุกอย่าง
กฎข้อที่ 9 อย่าเพิกเฉยต่อธงแดงที่คุณเองก็เห็น
กฎข้อที่ 10 อย่าสับสนระหว่างความผูกพันกับพันธนาการ - เรื่องของ Stockholm Syndrome
กฎข้อที่ 11 อย่ากลัวที่จะดูแย่ในสายตาคนอื่น
กฎข้อที่ 12 อย่าปล่อยให้อดีตทำร้ายปัจจุบัน

สารบัญ 

กฎข้อที่ 1อย่าคิดว่า “ฉันไม่โง่พอจะโดนหลอก”: ‘Overconfidence Bias’ อคติที่คิดว่าตัวเองเก่งเกินความเป็นจริง
กฎข้อที่ 2 อย่ากลัวว่าจะพลาดโอกาสทอง
กฎข้อที่ 3 อย่าทำตามคนหมู่มากโดยไม่คิด เพียงเพราะเห็นว่าใครๆ ก็ทำกัน
กฎข้อที่ 4 อย่าไว้ใจใครง่ายเกินไป – คนใกล้กับคนไกล ร้ายพอกัน
กฎข้อที่ 5 อย่าหลงกลกับคนทุ่มเทจนเกินงาม เพราะมันคือความรักที่เกินจริง
กฎข้อที่ 6 อย่าปล่อยให้ใครทำให้คุณรู้สึก ‘สงสัยตัวเอง’
กฎข้อที่ 7 อย่าให้ใครตัดคุณออกจากคนรอบตัว
กฎข้อที่ 8 อย่าหลงรักเพียงเพราะเขาดู ‘ใช่’ ทุกอย่าง
กฎข้อที่ 9 อย่าเพิกเฉยต่อธงแดงที่คุณเองก็เห็น
กฎข้อที่ 10 อย่าสับสนระหว่างความผูกพันกับการถูกทำร้าย Stockholm Syndrome
กฎข้อที่ 11 อย่ากลัวที่จะดูแย่ในสายตาคนอื่น
กฎข้อที่ 12 อย่าปล่อยให้อดีตทำร้ายปัจจุบัน
Bonus 1 บทสัมภาษณ์ท้ายเล่ม
Bonus 2 Q & A ที่แฟนคลับชอบถาม

คำนำสำนักพิมพ์

หากกล่าวถึง ‘ความฝัน’

ใครหลายคนคงหนีไม่พ้นกับคำถามที่ว่า

“อยากเป็นอะไร”

“มีความฝันคืออะไร”

บางครั้งเราอาจตอบไม่ได้ในทันที

ว่ามีความฝันแบบไหน อยากเป็นอะไร หรืออยากทำอะไร

ได้แต่ค่อยๆ ใช้เวลาตามหาความฝันที่เราอยากมีให้เจอ

ขณะเดียวกันผู้ที่มีความฝันหรือกำลังเดินตามความฝันอยู่นั้น

ก็อาจรู้สึกสับสนและลังเลว่าควรจะทำตามความฝันต่อไปดีหรือไม่

บางคนอาจจะตัดสินใจหันหลังให้กับความฝันเหล่านั้น

หนังสือเล่มนี้อยากชวนคุณมาสัมผัส 25 เรื่องราว

ที่จะกลับมาปลุกความฝันและช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจให้คุณอีกครั้ง

ในวันที่คุณอาจจะยังไม่เจอความฝันหรือหันหลังให้กับความฝันบางอย่างไปแล้ว

เรื่องราวของผู้คนเหล่านี้บอกเราว่า...

ไม่ว่าความฝันนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าความฝันจะมีหน้าตาแบบไหน

“ความฝันเหล่านั้นจะไม่วิ่งหนีเราไปไหน

แต่เป็นตัวเราเองต่างหากที่อาจวิ่งหนีจากความฝันนั้นไป”

อย่ายอมให้ใครมาเหยียบฝันของเรา

แล้วสักวันเราจะเจอความฝันที่มีความหมายในแบบที่เราอยากให้เป็น

สำนักพิมพ์ DOT



คำนำผู้เขียน

ในวัย 20-30 ปี ดิฉันรู้สึกสับสนกับทางเดินชีวิตตนเอง

ดิฉันมีความสุขกับการได้สอนการตลาดที่มหาวิทยาลัย ได้เจอเด็กๆ ที่น่ารักและตั้งใจเรียน แต่ลึกๆ ก็มีความลังเลและความไม่แน่ใจอะไรบางอย่างเจือปนอยู่

เราควรสอนหนังสือแบบนี้ต่อไปหรือ

เราดีพอหรือยังนะ

ดิฉันมองเห็นความสำเร็จของคนรอบๆ ตัว เช่น เพื่อนคนนั้นเปิดบริษัทของตนเองแล้ว พี่คนโน้นได้งานที่บริษัทข้ามชาติชื่อดัง หรือมองแม้แต่คนที่เรา ไม่รู้จักแต่ประสบความสำเร็จ อาจเป็นนักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้าน ยูทูเบอร์ที่ทำช่องแค่สองสามปีก็มีผู้ติดตามนับล้านคน  

การมัวแต่มองความสำเร็จของคนอื่นนี้ทำให้ดิฉันลืมมองความสามารถที่ตนเองมี และลืมเลือนความฝันของตนเองไป บางทีก็รู้สึกว่าต้องไขว่คว้า ต้องรีบทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ‘เหมือนกับคนอื่นเขา’

หนังสือเล่มนี้เลือกหยิบชีวิตของคนที่ประสบความสำเร็จ ‘ในแบบของแต่ละคน’ ขึ้นมาเล่า โดยถ่ายทอดมุมที่สวยงามและสำเร็จ สักร้อยละ 40 ขณะเดียวกันก็ตั้งใจเล่ามุมที่ล้มลุกคลุกคลานของบุคคลแต่ละท่านประมาณร้อยละ 60 ของเรื่องราวชีวิต 

บางคนสุขภาพไม่ดีตั้งแต่เกิด บางคนโหมงานจนเสียสุขภาพ บางคนกังวล ไม่มั่นใจในตนเองเลย บางคนอยากล้มเลิกเส้นทางความฝันตนเอง แต่ก็มีอะไรบางอย่างที่ ทำให้พวกเขาค่อยๆ ก้มหน้าก้มตาทำ และประสบความสำเร็จในสายอาชีพของตนได้  

บางบรรทัดของบางเรื่องราว ดิฉันรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่ดิฉันกำลังเผชิญอยู่ บางบรรทัดก็เป็นกำลังใจให้ตั้งใจทำงานต่อไป แต่บางบรรทัดก็เหมือนตบหัวตัวเองเบาๆ ให้เราตั้งใจหรืออดทนได้มากกว่านี้  

นี่อาจเป็นหนังสือแนว ‘ปลุก’ แรงบันดาลใจจากความล้มลุกคลุกคลานของบุคคลที่ประสบความสำเร็จก็เป็นได้ 

“อย่ายอมให้ใครเหยียบฝันค่ะ”

ดร.กฤตินี (พงษ์ธนเลิศ) เพิ่มทรัพย์

(เกตุวดี Marumura)