Last updated: 4 มิ.ย. 2568 | 47 จำนวนผู้เข้าชม |
“หนึ่งในข้อผิดพลาดที่คนมักทำบ่อยที่สุดก็คือการต่อรองกับวิถีที่โลกควรเป็น แทนที่จะยอมรับว่ามันเป็นของมันแบบนี้” จากหนังสือ คิดให้เฉียบคม ผู้เขียน Shane Parrish
อ่านข้อความนี้แล้วหลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องแก้ปัญหา เพราะทั้งหมดที่เราต้องการก็แค่การยอมรับสภาพ ถูกไหม ก็อาจจะถูก แต่ไม่ทั้งหมด…
‘มันก็เป็นของมันแบบนี้’ อาจจะฟังดูปลงตก รับสภาพ แต่ความหมายที่แท้จริงของมัน หรืออย่างน้อยก็ในความคิดของคนที่เขียนหนังสือเล่มนี้ เขาเพียงแค่อยากจะชี้ให้เห็นว่า เรายังต้องลงมือทำ ต้องปรับ ต้องเปลี่ยน ต้องหาทางออกกับสิ่งต่างๆ อย่างที่มันควรจะเป็น แต่แค่ไม่ต้องไปทุ่มเถียงพิสูจน์ว่าความคิดของเราถูก เราแค่ต้องสนใจในก้าวต่อไป มากกว่าตั้งคำถามว่า อะไรพาเรามาถึงจุดนี้
ไม่โทษสถานการณ์ แต่แค่รับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าตามความเป็นจริงและค้นหาความเป็นไปได้ที่จะทำให้ดีกว่าเดิม
ไม่ถึงกับเข้าข่ายปลงกับชีวิต แต่เข้าใจว่าชีวิตมันก็เหมือนกล่องจิ๊กซอว์ที่ไม่ได้มาพร้อมภาพที่ต่อเสร็จสมบูรณ์ ตรงกันข้าม มันคือชิ้นส่วนที่เราต้องมาปะติดปะต่อเอาเอง
และยิ่งไม่ใช่การต่อรองให้แม่ค้าต่อมาให้ครึ่งหนึ่งก่อน ไม่งั้นไม่ซื้อนะจ๊ะ
แต่พูดให้ชัดเจนก็คือ ศิลปะของการต่อจิ๊กซอว์อยู่ที่การยอมรับชิ้นส่วนที่เราได้รับมา ไม่ใช่ชิ้นส่วนที่เราอยากได้ เมื่อเปิดกล่องจิ๊กซอว์ เราไม่สามารถเลือกสีสัน รูปร่าง หรือความยากง่ายของชิ้นส่วนได้ เราเพียงแค่ต้องยอมรับทุกชิ้นส่วนตามที่มันเป็น
หน้าที่เราสำหรับจิ๊กซอว์กล่องนี้ก็คือ ค้นหาชิ้นส่วนแรก เพื่อประกอบขึ้นเป็นชิ้นต่อๆไปให้ดีที่สุด และคนที่บ้าที่สุดเท่านั้นที่จะเสียเวลาคิดว่า ทำไมเขาไม่ทำชิ้นนี้ให้สว่างกว่านี้หน่อย ทำชิ้นนั้นให้มันพอดีอีกนิด
มัวแต่ต่อรองกับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า แทนที่จะเริ่มต่อภาพจากสิ่งที่มี
มัวแต่คิดว่าทุกอย่างควรง่ายกว่านี้ แทนที่จะคิดว่านั่นไม่ใช่หน้าที่ของจิ๊กซอว์
เพราะคนสร้างจิ๊กซอว์เขาไม่ได้มีหน้าที่ทำให้มันง่าย มันถูกแล้วที่เขาทำให้มันยาก ไม่อย่างนั้น เขาจะเรียกจิ๊กซอว์ว่า puzzle หรือปัญหาที่เราต้องแก้เหรอ?
ถ้าอยากเปิดกล่องมาได้ภาพที่สวยงามเลย คุณพี่น่าจะมาผิดร้าน
วิถีของจิ๊กซอว์ แปลว่า ไม่มีชิ้นส่วนผิดหรือถูก มีเพียงชิ้นส่วนที่รอการจัดวางอย่างถูกที่ถูกทาง แม้เราจะเจอชิ้นส่วนที่ดูเหมือนไร้ความหมาย หรือเข้าข่ายอิหยังวะ เช่น ท้องฟ้าสีฟ้า หรือใบไม้สีเขียวที่ดูเหมือนกันไปหมด แต่ทุกชิ้นส่วนล้วนมีตำแหน่งที่เหมาะสมในภาพใหญ่อยู่ดี
มันก็เหมือนชีวิตและสารพัดเรื่องราวที่เราเจอทุกวันนี้นั่นแหละ…
อย่ามัวเอาเวลาไปคิดว่า ใครมันทำออกมาแบบนี้ เพราะนาทีนั้น มันอยู่ที่เราแล้วละว่า เราจะทำให้ออกมาแบบไหน
วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม
บรรณาธิการบริหาร